เรื่องย่อ : JoJo’s Bizarre Adventure Seasons 2

โจนาธาน โจสตาร์เกิดในตระกูลขุนนางผู้ร่ำรวยจากอังกฤษในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 เขาเติบโตมาในบ้านหลังใหญ่ที่ตั้งอยู่ในชนบทของอังกฤษ ชีวิตของเขาเต็มไปด้วยความสุขและความสงบสุข ทั้งจากครอบครัวที่รักใคร่และการใช้ชีวิตที่ง่ายดาย เขามีความสัมพันธ์ที่ดีต่อทุกคนรอบตัว รวมถึงพ่อของเขา จอร์จ โจสตาร์ ที่เป็นบุคคลที่มีคุณธรรมและยึดมั่นในความถูกต้อง ชีวิตของโจนาธานต้องเปลี่ยนแปลงเมื่อพ่อของเขานำเด็กชายชื่อ ดิโอ แบรนโด มารับเลี้ยงในบ้าน เพื่อช่วยเหลือเขาหลังจากที่ดิโอสูญเสียแม่และต้องเผชิญกับชีวิตที่ยากลำบาก ดิโอเป็นเด็กที่เต็มไปด้วยความทะเยอทะยานและความริษยา เขาไม่เคยยอมรับชีวิตในครอบครัวโจสตาร์ โดยเฉพาะความเป็นอยู่ที่ดีกว่าในบ้านของโจนาธาน แม้โจนาธานจะพยายามทำให้เขารู้สึกว่าเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว แต่ดิโอกลับคิดว่าจะต้องมีทุกสิ่งที่โจนาธานมี รวมถึงชื่อเสียงและทรัพย์สมบัติของครอบครัวโจสตาร์ ดิโอใช้ความอิจฉาและความโกรธที่มีต่อโจนาธานเป็นแรงผลักดันในการหาวิธีทำให้ชีวิตของโจนาธานพังทลาย เขาเริ่มวางแผนที่จะแย่งทุกสิ่งจากโจนาธาน และในที่สุดก็พยายามฆ่าครอบครัวของเขาโดยการใช้พิธีกรรมโบราณที่เกี่ยวข้องกับหินอารัน ซึ่งสามารถเปลี่ยนผู้ใช้งานให้กลายเป็นแวมไพร์ เมื่อดิโอแปรสภาพเป็นแวมไพร์ที่มีพลังอำนาจเหนือธรรมชาติ โจนาธานต้องเผชิญหน้ากับภัยอันตรายครั้งใหญ่ที่ไม่เคยมีใครคาดคิด เขาต้องการที่จะหยุดยั้งดิโอไม่ให้ทำลายครอบครัวและโลกที่เขารัก การต่อสู้ระหว่างโจนาธานและดิโอกลายเป็นการต่อสู้ที่ไม่มีทางหลีกเลี่ยง โดยมีการใช้พลังพิเศษที่เรียกว่า “สแตนด์” ซึ่งทำให้การต่อสู้ระหว่างทั้งสองเป็นไปอย่างดุเดือด โจนาธานได้เรียนรู้วิธีการใช้พลังสแตนด์ของตนเอง และร่วมมือกับเพื่อนร่วมทางที่น่าทึ่งในการต่อสู้ครั้งนี้ ในที่สุด โจนาธานก็สามารถเอาชนะดิโอได้อย่างยากลำบาก แต่ก็ต้องแลกมาด้วยชีวิตของตัวเอง แม้จะตายไปแล้ว แต่มรดกของเขายังคงมีอิทธิพลต่อการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในอนาคตของตระกูลโจสตาร์ และได้เป็นแรงบันดาลใจให้กับลูกหลานของเขาต่อสู้เพื่อความดีและความยุติธรรม เรื่องราวนี้ไม่เพียงแต่เป็นการต่อสู้ระหว่างความดีและความชั่ว แต่ยังเป็นการเรียนรู้เกี่ยวกับความหมายของการเสียสละ การพัฒนาตัวเอง และการสู้เพื่อสิ่งที่ถูกต้อง แม้ว่าโจนาธานจะไม่ได้มีชีวิตอยู่ต่อไป แต่ชื่อของเขายังคงอยู่ในประวัติศาสตร์ เป็นเรื่องราวที่สะท้อนให้เห็นถึงคุณค่าของการทำดีในโลกที่เต็มไปด้วยความมืดมน