เรื่องย่อ : Gintama Season 4

เรื่องราวเกิดขึ้นในยุคเอโดะ ซึ่งต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็นโตเกียวในปี 1862 อย่างไรก็ตาม ในจักรวาลของเรื่องนี้ ประวัติศาสตร์ได้รับการเขียนขึ้นใหม่ เมื่อเหล่าสิ่งมีชีวิตจากนอกโลกที่เรียกว่า เซเลสเชียล (Amanto) ได้เดินทางมายังโลกและเข้ายึดครองอาณาจักรของมนุษย์ พวกเขาเข้ามาพร้อมกับเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยและพลังอำนาจที่เหนือกว่ามนุษย์ ทำให้รัฐบาลโชกุนในขณะนั้นไม่สามารถต้านทานได้ และต้องยอมจำนนต่อการปกครองของเหล่าเซเลสเชียล หนึ่งในคำสั่งแรกที่ออกโดยผู้ปกครองจากต่างดาวคือการยึดอาวุธของซามูไรและลดยศศักดิ์ของพวกเขา ส่งผลให้ยุคของซามูไรต้องถึงกาลอวสาน นักรบที่เคยได้รับการยกย่องในฐานะนักสู้ผู้กล้าหาญ กลับกลายเป็นเพียงอดีตที่ถูกหลงลืม และญี่ปุ่นก็ค่อยๆ ถูกเปลี่ยนแปลงไปสู่ยุคที่เทคโนโลยีของเซเลสเชียลเข้าครอบงำเมืองเอโดะอย่างเต็มรูปแบบ อย่างไรก็ตาม แม้ว่าเหล่าซามูไรจะถูกลดบทบาทลง แต่ยังมีชายคนหนึ่งที่ยังคงยึดมั่นในวิถีแห่งซามูไร—ซากาตะ กินโทกิ (Sakata Gintoki) อดีตนักรบผู้เคยต่อสู้ในสงครามต่อต้านเหล่าเซเลสเชียล แม้ในปัจจุบันเขาจะไม่ได้ถือดาบในฐานะนักรบอีกต่อไป แต่เขายังคงรักษาจิตวิญญาณของซามูไรไว้ภายในจิตใจ กินโทกิใช้ชีวิตอย่างเรียบง่ายและดำเนินธุรกิจรับจ้างสารพัดภายใต้ชื่อ โยโรซึยะ (Yorozuya – รับทำทุกอย่าง) โดยรับงานทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นการหาของที่หายไป ไล่ผี คุ้มกัน หรือแม้แต่ทำงานแปลกๆ ที่ไม่มีใครอยากทำ สิ่งที่เขาทำไปทั้งหมดก็เพื่อหาเงินมาจ่ายค่าเช่าที่พักอาศัย และเอาชีวิตรอดในยุคที่ซามูไรแทบไม่เหลือที่ยืน ร่วมเดินทางไปกับเขาคือ ชิมูระ ชินปาจิ (Shimura Shinpachi) เด็กหนุ่มที่สวมแว่นและมีความฝันอยากเป็นซามูไรที่แท้จริง แม้ว่ายุคของซามูไรจะจบลงไปแล้ว แต่ชินปาจิยังคงยึดมั่นในจิตวิญญาณของนักรบและต้องการเดินตามรอยซามูไรผู้ยิ่งใหญ่ ในขณะที่เขายังขาดประสบการณ์และทักษะการต่อสู้ ชินปาจิถือเป็นตัวแทนของคนรุ่นใหม่ที่พยายามดิ้นรนในโลกที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว อีกหนึ่งสมาชิกของโยโรซึยะคือ คางุระ (Kagura) เด็กสาวจากตระกูล […]